Featured News
Posts List
Posts Slider
Health
-
หลังค่อม มีสาเหตุมาจากอะไร และสามารถรักษาหายหรือไม่
หลังค่อม ที่เรามักนึกภาพเห็นเป็นคนแก่ที่อายุเยอะๆ เดินหลังค่อม แต่ในปัจจุบันอาการหลังค่อมสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย ในบทความนี้จะมาพูดถึงอาการหลังค่อม สาเหตุ และการวินิจฉัยรักษาอาการหลังค่อม
อาการหลังค่อม
หลังค่อม (Kyphosis) คือ อาการที่กระดูกสันหลังโค้งนูนมากผิดปกติ ในบางรายอาจสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น รู้สึกปวดหรือตึงบริเวณหลัง เจ็บที่กระดูกสันหลัง ในผู้ที่มีอาการหลังค่อมมากอาจลำบากเวลารับประทานอาหารหรือหายใจ สาเหตุเกิดจากการพัฒนาที่ผิดปกติของกระดูกสันหลังของทารกในครรภ์มารดา หรือการทำร้ายสุขภาพของกระดูกสันหลังด้วยการทำท่าทางหรืออยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง หรือจากความเสื่อมของกระดูกสันหลังตามวัย พบได้ในเด็ก วัยรุ่น และในผู้สูงอายุ
หลังค่อมจะมีอาการที่สังเกตได้ชัดคือ ลักษณะของหลังที่โค้งนูนมากกว่าปกติหรือมีลักษณะที่แปลกไป โดยปกติกระดูกสันหลังตอนบนจะมีลักษณะโค้งตามธรรมชาติอยู่ที่ประมาณ 20-45 องศา แต่ในผู้ที่มีอาการหลังค่อมจะมีความโค้งตั้งแต่ 50 องศาขึ้นไป อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับสาเหตุและองศาความโค้งนูนของหลังในผู้ป่วยแต่ละราย ในผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจยากลำบากเวลารับประทานอาหารหรือหายใจ หลังค่อมเกิดขึ้นได้ทุกวัย โดยเฉพาะในเด็กหรือวัยรุ่นในช่วงที่มีการพัฒนาของกระดูกอย่างรวดเร็ว หากพบว่าบุตรหลานมีกระดูกสันหลังตอนบนที่โค้งนูนของผิดปกติควรพาไปพบแพทย์
สาเหตุของหลังค่อม
หลังค่อมเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกสันหลังส่วนอกที่โค้งนูนมากผิดปกติ อาจเป็นผลมาจากหลายสาเหตุ หลังค่อมที่พบทั่วไปแบ่งได้ 3 ประเภทดังต่อไปนี้
- Postural Kyphosis
อาการหลังค่อมประเภทนี้มักพบได้ในเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย เป็นผลมาจากการทำท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานานและส่งผลต่อสุขภาพของกระดูกสันหลัง เช่น การงอหลัง การนั่งพิงพนัก การนั่งเอนหลัง หรือการสะพายกระเป่าที่มีน้ำหนักมาก เป็นต้น ทำให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ประคองกระดูกสันหลังยืดหรือถ่างออก และดึงให้กระดูกสันหลังผิดรูป แก้ไขได้ด้วยการทำท่าทางที่ถูกต้อง เช่น การยืนตัวตรง การยืดหลัง เป็นต้น และไม่ทำร้ายสุขภาพของกระดูกสันหลัง อาการหลังค่อมประเภทนี้ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ และมักไม่พบอาการหลังค่อมมากขึ้นเมื่อเป็นผู้ใหญ่
- Scheuermann’s Kyphosis
อาการหลังค่อมประเภทนี้มักพบอาการที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ หลังจะงอหรือค่อมเป็นมุมที่ชัดเจน ไม่สามารถแก้ไขได้แม้จะทำท่าทางที่ถูกต้อง เช่น การยืนตัวตรง การยืดหลัง เป็นต้น เหมือนเช่นในผู้ป่วยที่มีอาการหลังค่อมแบบ Postural Kyphosis อาการนี้พบได้ในเด็กวัยรุ่นชายมากกว่าในเด็กวัยรุ่นหญิง โดยเฉพาะในผู้ที่มีลักษณะผอม ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณเลือดไปเลี้ยงกระดูกสันหลังไม่เพียงพอ ทำให้กระดูกสันหลังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่และเส้นเอ็นรอบบริเวณกระดูกสันหลังมีความหนากว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นลักษณะหนึ่งทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันภายในครอบครัว พบความผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกสันหลังตอนบน หรือตอนล่าง ในผู้ป่วยบางรายาอาจรู้สึกเจ็บที่บริเวณส่วนที่โค้งนูนของกระดูกสันหลัง รวมถึงบริเวณเอว อาการเจ็บจะรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะในเวลาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การนั่งหรือการยืนเป็นเวลานาน
- Congenital Kyphosis
อาการหลังค่อมประเภทนี้เกิดจากภาวะกระดูกสันหลังพัฒนาผิดปกติตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา ส่วนมากจะพบว่ามีการเชื่อมรวมกันของกระดูกสันหลังตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไป อาจพบอาการที่รุนแรงได้และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดตั้งแต่ในวัยเด็ก เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของกระดูกสันหลังที่อาจโค้งนูนไปมากกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นลักษณะหนึ่งทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันภายในครอบครัว หรืออาจพบว่าผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจหรือไตร่วมด้วย
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการหลังค่อม ได้แก่
- โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) ทำให้กระดูกไม่แข็งแรงและแตกหักได้ง่าย
- โรคกระดูกเสื่อม (Spondylosis) รวมถึงหมอนรองกระดูกและเส้นเอ็นของกระดูกสันหลังที่เสื่อมไปตามวัย
- อาการสไปนา ไบฟิดา (Spina Bifida) เป็นอาการที่กระดูกสันหลังพัฒนาได้ไม่ถูกต้อง
- โรคพาเจท (Paget’s Disease) เป็นอาการที่เกิดจากปัญหาของการฟื้นฟูกระดูก ส่งผลให้กระดูกไม่แข็งแรงหรืออาจทำให้ผิดรูปได้
- โรคนิวโรไฟโบรมาโตซิส (Neurofibromatosis) เป็นโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่มีผลต่อระบบประสาท
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular Dystrophy) เป็นภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ และอาจมีโอกาสพิการได้
- วัณโรค เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มักเกิดขึ้นบริเวณปอดและที่กระดูกสันหลัง
- โรคมะเร็ง ที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกสันหลังหรือลุกลามมาจากเชื้อมะเร็งในอวัยวะอื่นๆ
- การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลัง
- อายุ เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกสันหลังจะโค้งมากขึ้น
การวินิจฉัยหลังค่อม
อาการหลังค่อมวินิจฉัยได้โดยแพทย์จะตรวจประวัติผู้ป่วยเบื้องต้น สอบถามเกี่ยวกับอาการ จากนั้นจะตรวจร่างกาย ในผู้ป่วยบางรายอาจมีความโค้งนูนที่สังเกตเห็นได้ชัดถึงความผิดปกติของกระดูกสันหลัง แพทย์อาจกดที่กระดูกสันหลังเพื่อดูว่ามีอาการเจ็บบริเวณไหน หรือวินิจฉัยโดยให้ผู้ป่วยยืนเท้าชิดกัน เข่าตรง ก้มตัวไปด้านหน้า และยืดแขนทั้ง 2 ข้างไปแตะที่พื้น วิธีการนี้มีชื่อว่า Adam’s Forward Bend Test เพื่อตรวจหาความโค้งนูนที่ผิดปกติของกระดูกสันหลัง รวมถึงอาจวินิจฉัยอาการหลังค่อมเพิ่มเติมด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- การเอกซเรย์ (X-Rays) เพื่อตรวจหาองศาความโค้งที่ผิดปกติของกระดูกสันหลัง และเพื่อช่วยระบุชนิดของหลังค่อม รวมถึงการสแกนความหนาแน่นของกระดูก
- การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อวินิจฉัยข้อมูลเพิ่มเติมหลังการเอ็กซเรย์
- การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หากแพทย์สงสัยว่าอาจพบเนื้องอกหรือการติดเชื้อ
- การตรวจระบบประสาท (Neurological Tests) ในผู้ที่มีอาการชา รู้สึกเจ็บเหมือนมีเข็มแทง หรือมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในช่วงล่างของร่างกาย อาจต้องตรวจระบบประสาทเพื่อทดสอบการตอบสนอง การเคลื่อนตัวของกระแสประสาท
- การทดสอบสมรรถภาพของปอด (Pulmonary Function Tests) เพื่อวินิจฉัยและทดสอบการหายใจ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหลังค่อมมาก
- การตรวจเลือด เพื่อตรวจหาการติดเชื้อต่างๆ เช่น วัณโรค
การรักษาหลังค่อม
การรักษาอาการหลังค่อมทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุและสุขภาพของผู้ป่วย ประเภทและอาการของหลังค่อม หรือองศาความโค้งนูนของกระดูกสันหลังในผู้ป่วยแต่ละราย โดยแนวทางในการรักษาแบ่งได้ 2 ประเภท คือ การรักษาที่ไม่ต้องรผ่าตัด และการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. การรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหลังค่อมที่มีผลมาจากการทำท่าทางที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน (Postural Kyphosis) หรือผู้ป่วยที่มีอาการหลังค่อมแบบ Scheuermann’s Kyphosis แต่มีความโค้งของกระดูกสันหลังไม่เกิน 75 องศา โดยแพทย์จะมีแนวทางการรักษาดังต่อไปนี้
- การติดตามอาการ โดยแพทย์จะเอกซเรย์ (X-Rays) เก็บข้อมูลความโค้งของกระดูกสันหลังของผู้ป่วยเป็นระยะจนกว่าจะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่
- การทำกายภาพบำบัด เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังและท้อง ยืดเอ็นร้อยหวาย รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายโดยเฉพาะในส่วนที่ได้รับผลกระทบจากแนวโค้งของกระดูกสันหลัง
- การรับประทานยาในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น ยาไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) หรือยานาโปรเซน (Naproxen)
- การใช้อุปกรณ์ค้ำกระดูก (Bracing) แพทย์อาจแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ค้ำกระดูกในผู้ป่วยเด็กที่มีอาการหลังค่อมแบบ Scheuermann’s Kyphosis จนกว่าจะเจริญเติบโตเต็มที่ โดยประเภทของอุปกรณ์และระยะเวลาการใช้ในแต่ละวันขึ้นอยู่กับองศาความโค้งของกระดูกสันหลัง
2. การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหลังค่อมแบบ Congenital Kyphosis รวมถึงผู้ป่วยที่มีอาการหลังค่อมแบบ Scheuermann’s Kyphosis แต่มีความโค้งของกระดูกสันหลังเกินกว่า 75 องศา และผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังอย่างรุนแรงและอาการไม่บรรเทาลงจากการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด แพทย์จะผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลัง (Spinal Fusion) เพื่อลดองศาความโค้งของกระดูกสันหลัง อาจทำให้อาการปวดหลังดีขึ้น รวมถึงป้องกันอาการอื่นๆ ที่อาจตามมา แต่การผ่าตัดอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น การติดเชื้อหลังการผ่าตัด เลือดออกมากที่แผลผ่าตัด รวมถึงเส้นประสาทอาจได้รับความเสียหาย ซึ่งทำให้เป็นอัมพาตและสร้างปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ได้
ภาวะแทรกซ้อนของหลังค่อม
หลังค่อมอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น
- อาการปวดหลังที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และอาการไม่บรรเทาลงหลังรับประทานยาแก้ปวด
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ในผู้ป่วยที่มีองศาของกระดูกสันหลังหรือมีความโค้งมาก อาจส่งผลให้กระดูกไปกดทับปอดหรือทางเดินหายใจ
- ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ เด็กที่มีอาการหลังค่อมอาจรู้สึกอาย ไม่อยากเข้าสังคม รวมถึงไม่อยากทำกิจกรรมต่างๆ ที่อาจเป็นการเปิดเผยอาการหลังค่อมให้ผู้อื่นรู้
ควรรีบไปพบแพทย์หากพบภาวะแทรกซ้อนที่มีอาการรุนแรง เช่น เส้นประสาทถูกกระดูกสันหลังกดทับ ส่งผลต่อการทำงานของสัญญาณประสาท ทำให้บริเวณแขนและขาเกิดอาการชาหรืออ่อนแรง ปัญหาเกี่ยวกับประสาทสัมผัส กระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้สูญเสียการควบคุม เป็นต้น
การป้องกันหลังค่อม
หลังค่อมที่เกิดจากท่าทางป้องกันได้โดยการอยู่ในอิริยาบถที่ถูกต้อง ไม่ทำลายสุขภาพของกระดูกสันหลัง โดยปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้
- นั่งหรือยืนในท่าทางที่ถูกต้อง เช่น หลังตรง ไม่ห่อตัว อกผาย ไหล่ผึ่ง
- หลีกเลี่ยงการสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักมาก
- เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อหลัง ท้อง และหน้าอก เพื่อให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ช่วยพยุงกระดูกสันหลัง ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การว่ายน้ำ การวิ่ง การเดิน การเล่นโยคะ การเล่นพิลาทิส เป็นต้น
เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- น้ำลายเหนียว มีสาเหตุ และการรักษาอย่างไร
- กล้ามเนื้ออักเสบ มีอาการและการรักษาอย่างไร
- ปากเบี้ยว มีสาเหตุมาจากอะไร และมีการรักษาอย่างไร
- หูอื้อ มีสาเหตุมาจากอะไร สามารถรักษาและป้องกันได้อย่างไร
- เล็บ สามารถบอกโรคหรือปัญหาสุขภาพอะไรได้บ้าง
ที่มาของบทความ
ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ kazama-dc.com
สนับสนุนโดย ufabet369
Economy
-
เชลล์รายงานกำไรแข็งแกร่งเกินคาด
ยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันและก๊าซเชลล์รายงานผลกำไรที่แข็งแกร่งเกินคาดที่ 9.6 พันล้านดอลลาร์ (7.6 พันล้านปอนด์) ในช่วงสามเดือนแรกของปี
ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
แม้ว่าราคาพลังงานจะปรับตัวลงก็ตาม
บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลได้รับผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซพุ่งสูงขึ้นหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกมันได้ร่วงหล่นลงมาจากจุดสูงสุดหลังการรุกราน
แวล สวรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเชลล์ กล่าวว่า บริษัทได้ส่งมอบ “ผลประกอบการที่แข็งแกร่งและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความผันผวนอย่างต่อเนื่อง”
บริษัทยังกล่าวอีกว่า จะคืนเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ให้กับผู้ถือหุ้นด้วยการซื้อหุ้นคืนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า
แม้ว่าราคาน้ำมันจะร่วงลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เชลล์กล่าวว่ากำไรของบริษัทได้รับแรงหนุนจากการซื้อขายที่แข็งแกร่งในธุรกิจเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์กลั่น
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ BP ได้รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ในช่วง 3 เดือนแรกของปี แม้ว่าจะต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565
ในเดือนกุมภาพันธ์ เชลล์รายงานผลกำไร 39.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 เพิ่มขึ้นสองเท่าจากยอดรวมของปีที่แล้ว และสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 115 ปี
ในขณะที่ราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากสงครามเริ่มขึ้นในยูเครนทำให้บริษัทพลังงานได้กำไรก้อนโต แต่ก็ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นสำหรับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจด้วย
ปีที่แล้ว รัฐบาลสหราชอาณาจักรแนะนำภาษีลาภลอยจากผลกำไรที่ได้จากการสกัดน้ำมันและก๊าซของสหราชอาณาจักร ซึ่งเรียกว่า Energy Profit Levy (EPL) เพื่อช่วยเหลือกองทุนในโครงการลดค่าก๊าซและค่าไฟฟ้า
ภายใต้การรับประกันราคาพลังงานของรัฐบาล ค่าพลังงานสำหรับครัวเรือนทั่วไปถูกจำกัดไว้ที่ 2,500 ปอนด์ต่อปี แม้ว่าการสนับสนุนระดับนี้จะหยุดในสิ้นเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดต่างประเทศได้เพิ่มความหวังว่าราคาน้ำมันจะลดลงต่ำกว่าระดับนี้ในเดือนกรกฎาคม ทำให้การรับประกันราคาซ้ำซ้อน
ราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ราว 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากระดับสูงสุดเกือบ 128 ดอลลาร์หลังการรุกรานของยูเครน
เชลล์รายงานผลกำไรสูงสุดในรอบ 115 ปี
เชลล์ ยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันและก๊าซรายงานผลกำไรประจำปีเป็นประวัติการณ์ หลังจากราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นในปีที่แล้ว หลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
กำไรแตะ 39.9 พันล้านดอลลาร์ (32.2 พันล้านปอนด์) ในปี 2565 เพิ่มขึ้นสองเท่าจากยอดรวมของปีที่แล้วและสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 115 ปี
บรรดาบริษัทพลังงานเห็นรายได้สูงเป็นประวัติการณ์เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซพุ่งสูงขึ้นหลังการรุกรานของยูเครน
มันกดดันให้บริษัทต้องจ่ายภาษีมากขึ้นเนื่องจากครัวเรือนต้องต่อสู้กับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
พรรคฝ่ายค้านกล่าวว่าผลกำไรของเชลล์นั้น “น่าตกใจ” และรัฐบาลกำลังปล่อยให้บริษัทพลังงาน “เลิกยุ่ง” พวกเขายังเรียกร้องให้ยกเลิกการเพิ่มราคาพลังงานตามแผนที่จะกำหนดในเดือนเมษายน
ราคาพลังงานเริ่มสูงขึ้น
หลังจากสิ้นสุดการล็อกดาวน์จากโควิด แต่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากเหตุการณ์ในยูเครนทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทาน
ราคาน้ำมันดิบเบรนต์แตะระดับเกือบ 128 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังการบุกรุก แต่หลังจากนั้นก็ร่วงลงมาเหลือประมาณ 83 ดอลลาร์ ราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน แต่ลงมาจากจุดสูงสุดแล้ว
สิ่งนี้นำไปสู่ผลกำไรที่ลดลงสำหรับบริษัทด้านพลังงาน แต่ยังทำให้ค่าพลังงานเพิ่มขึ้นสำหรับครัวเรือนและธุรกิจอีกด้วย
ปีที่แล้ว รัฐบาลสหราชอาณาจักรออกภาษีลาภลอยที่เรียกว่า Energy Profit Levy จากรายได้ที่ “ไม่ธรรมดา” ของบริษัทต่างๆ เพื่อช่วยสนับสนุนโครงการเพื่อลดค่าก๊าซและค่าไฟฟ้า
แม้จะมีการย้าย เชลล์กล่าวว่าบริษัทไม่คาดว่าจะต้องจ่ายภาษีของสหราชอาณาจักรในปีนี้ เนื่องจากได้รับอนุญาตให้ชดเชยต้นทุนการรื้อถอนและการลงทุนในโครงการของสหราชอาณาจักรเทียบกับผลกำไรของสหราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดี มีกำหนดจ่ายภาษีลาภลอย 134 ล้านดอลลาร์ในสหราชอาณาจักรในปี 2565 และคาดว่าจะจ่ายมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2566
นี่อาจดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลกำไร แต่เชลล์ได้รับรายได้ประมาณ 5% จากสหราชอาณาจักรเท่านั้น ส่วนที่เหลือทำขึ้นและเก็บภาษีในเขตอำนาจศาลอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ชี้ให้เห็นว่าเชลล์เป็นบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรและจ่ายเงินให้กับผู้ถือหุ้นมากกว่าที่จะใช้จ่ายในการลงทุนด้านพลังงานทดแทน
การประกาศดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันให้ Rishi Sunak และ Jeremy Hunt ระดมเงินจากผลกำไรจากน้ำมันและก๊าซ
เจ้าหน้าที่ Downing Street กล่าวว่าพวกเขา “เข้าใจ” อย่างแน่นอน โกรธต่อกำไรที่ “พิเศษ” แต่ระบุว่าไม่มีแผนที่จะเพิ่มภาษีลาภลอย
โฆษกของนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นเป็น “สำหรับนายกรัฐมนตรี” เมื่อนักข่าวกดดัน
รัฐบาล “พร้อมที่จะดำเนินการ” หากต้นทุนขายส่งพลังงานที่ลดลงไม่ได้สะท้อนให้เห็นในราคาที่ต่ำกว่าที่ปั๊มน้ำมัน เจ้าหน้าที่กล่าวเพิ่มเติมโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเฉพาะ
ขณะนี้รัฐบาลกำลังจำกัดค่าก๊าซและค่าไฟฟ้า ดังนั้นครัวเรือนที่ใช้พลังงานในปริมาณปกติจะจ่าย 2,500 ปอนด์ต่อปี
อย่างไรก็ตาม นั่นยังมากกว่าสองเท่าก่อนที่รัสเซียจะรุกราน และเกณฑ์จะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ปอนด์ในเดือนเมษายน
ภาษีลาภลอยของรัฐบาลใช้กับผลกำไรที่ได้จากการสกัดน้ำมันและก๊าซของสหราชอาณาจักรเท่านั้น อัตราเดิมกำหนดไว้ที่ 25% แต่ปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นเป็น 35%
บริษัทน้ำมันและก๊าซยังจ่ายภาษีนิติบุคคล 30% จากผลกำไรและอัตราเพิ่มเติม 10% พร้อมกับภาษีลาภลอยใหม่ซึ่งใช้อัตราภาษีรวมเป็น 75%
อย่างไรก็ตาม บริษัทต่างๆ สามารถลดจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายได้โดยการคำนวนความเสียหายหรือใช้จ่ายในสิ่งต่างๆ เช่น การรื้อถอนแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลเหนือ หมายความว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานเช่น BP และ Shell ได้จ่ายภาษีเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในสหราชอาณาจักร
‘ส่วนแบ่งที่ยุติธรรม’
ตัวเลขกำไรประจำปีแซงหน้าสถิติเดิมของเชลล์ในปี 2551 บริษัทยังกล่าวอีกว่าได้จ่ายเงิน 6.3 พันล้านดอลลาร์ให้กับผู้ถือหุ้นในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2565 และวางแผนซื้อหุ้นคืนอีก 4 พันล้านดอลลาร์
วาเอล สวรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเชลล์กล่าวว่า ช่วงเวลาเหล่านี้เป็น “ช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อ เรากำลังเห็นอัตราเงินเฟ้อพุ่งกระฉูดไปทั่วโลก” แต่เชลล์ก็เข้ามามีบทบาทด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีหมุนเวียน
Sinead Gorman ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเชลล์เสริมว่าเชลล์ได้จ่ายภาษีทั่วโลกไปแล้ว 13,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 นอกจากนี้ ยังคิดเป็น 11% ของการขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลวไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อการจัดหาที่เกิดจากการคว่ำบาตรรัสเซีย
Ed Miliband เลขาธิการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเงาของ Labour กล่าวว่า “ในขณะที่คนอังกฤษเผชิญกับการขึ้นราคาพลังงาน 40% ในเดือนเมษายน รัฐบาลกำลังปล่อยให้บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลสร้างผลกำไรมหาศาลโดยที่พวกเขาปฏิเสธที่จะใช้ภาษีลาภลอยที่เหมาะสม
“แรงงานจะหยุดการขึ้นราคาพลังงานสูงสุดในเดือนเมษายน เพราะมันถูกต้องแล้วที่บริษัทที่ทำกำไรอย่างคาดไม่ถึงจากผลที่ได้รับจากสงครามจะจ่ายส่วนแบ่งที่ยุติธรรม”
เอ็ด ดาวีย์ ผู้นำพรรคเดโมแครตที่มีแนวคิดเสรีนิยมกล่าวว่า “ไม่มีบริษัทใดควรทำกำไรอย่างอุกอาจจากการรุกรานยูเครนอย่างผิดกฎหมายของปูติน
“พวกเขาต้องเก็บภาษีจากบริษัทน้ำมันและก๊าซอย่างถูกต้อง และอย่างน้อยที่สุดต้องแน่ใจว่าค่าพลังงานจะไม่เพิ่มขึ้นอีกในเดือนเมษายน”
Paul Nowak เลขาธิการ TUC เรียกร้องให้รัฐมนตรีเรียกเก็บภาษีลาภลอยมากขึ้น พร้อมเสริมว่า “หมดเวลาหาข้อแก้ตัวแล้ว”
เขากล่าวต่อว่า: “แทนที่จะระงับค่าจ้างของแพทย์ ครู นักดับเพลิง และข้าราชการอีกหลายล้านคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง รัฐมนตรีควรให้น้ำมันและก๊าซจำนวนมากจ่ายส่วนแบ่งที่ยุติธรรม”
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเว็บของเรา
อิลคาย กุนโดกัน เข้าร่วมบาร์เซโลนาจากแมนฯ ซิตี้ ไม่มีค่าใช้จ่าย
กางสูตรเสริมทัพ ลิเวอร์พูล พร้อมอัพเดตแข้งเป้าหมายซัมเมอร์นี้
7 เหตุผลที่นักเรียนต้องการเทคโนโลยีในห้องเรียน
ส.อ.ท.ตื่นตัวรับ CBAM เตรียมตั้งกองทุนเปลี่ยนผ่าน
ยุงกัด ลูกน้อยมีวิธีการป้องกันอย่างไร
ขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com
แหล่งที่มา https://www.bbc.com/news/business
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ kazama-dc.com
Latest News
หลังค่อม มีสาเหตุมาจากอะไร และสามารถรักษาหายหรือไม่
หลังค่อม ที่เรามักนึกภาพเ...
บาโลกุน พร้อมร่วมทีมอินเตอร์ มิลานเหลือแค่คุยค่าตัว
บาโลกุน พร้อมร่วมทีมอินเต...
ริโอ สับสื่อหลังตีข่าว โรนัลโด ซบลีกซาอุฯเพราะหิวเงิน
ริโอ เฟอร์ดินานด์ กูรูลูก...
แม็คคอร์ตี้ เผยรีไทร์หลังเล่นอาชีพกับ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์
แม็คคอร์ตี้ เผยรีไทร์หลัง...